ปิด

มีนานี้มีผล ฟรีวีซ่าไทย-จีน ความท้าทายใหม่ ของหลายอุตสาหกรรม

มีนานี้มีผล ฟรีวีซ่าไทย-จีน ความท้าทายใหม่ ของหลายอุตสาหกรรม
ลงนามแล้ว ฟรีวีซ่าไทย-จีน ภายหลังจากในปี ค.ศ. 2023 ที่ผ่านมามีการทดลองการใช้หนังสือเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าของคนจีนให้สามารถเข้ามาท่องเที่ยวและทำธุรกิจในประเทศไทยได้ ถือว่ามีความประสบความสำเร็จจนนำมาสู่การลงนามข้อตกลงว่าด้วยเรื่องการยกเว้นวีซ่าของคนไทยกับคนจีน เมื่อวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 2024 ที่ผ่านมา โดยจะมีผลบังคับใช้ทันทีใน วันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2024 นี้เป็นต้นไป 

เปิดเงื่อนไขฟรีวีซ่าไทย-จีน
  • ยกเว้นการตรวจลงตราประทับสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาและผู้ถือหนังสือเดินทางกึ่งราชการ ในการเดินทางเข้า - ออก หรือผ่านแดนของทั้งสองฝ่าย 
  • สามารถพำนักแต่ละครั้งได้ไม่เกิน 30 วัน และรวมระยะเวลา ไม่เกิน 90 วัน ภายในช่วงเวลา 180 วัน
  • ยกเว้นการพำนักถาวร ทำงาน การศึกษา กิจกรรมอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการอนุญาตล่วงหน้าจากหน่วยงานที่รับผิดชอบของอีกฝ่าย
ฟรีวีซ่าไทยจีน ไม่ได้มีดีแค่ท่องเที่ยว
แม้หลายภาคส่วนต่างออกมายินดีเกี่ยวกับการลงนามฟรีวีซ่าไทย-จีน เมื่อวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 2024 ที่ผ่านมา ว่าไทยจะได้รับอานิสงส์จากนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมาก หลังจากในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจากจีนเพิ่มขึ้น แม้จะไม่สามารถเทียบกับช่วงเวลาเดียวก่อนที่จะเกิดวิกฤตโควิดก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามยังเป็นตัวเลขที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะการเข้ามาลงทุนของนักธุรกิจจากประเทศจีน จากสถิติการลงทุนใน นิคมอุตสาหกรรม โดยตรงจากต่างประเทศในปี ค.ศ. 2023  ระหว่างเดือนมกราคม - กันยายน มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมจำนวน 910 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 398,527 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปี ค.ศ. 2022 (ม.ค. - ก.ย.) จำนวนโครงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 48 ส่วนมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศจีนมากถึง 264 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 29 ของโครงการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด สำหรับมูลค่าเงินลงทุนสูงสุดมาจากนักลงทุนชาวจีน มูลค่ารวม 97,464 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25 ของมูลค่าเงินลงทุนจากต่างประเทศ รองลงมาเป็นสิงคโปร์และญี่ปุ่นตามลำดับ

เผยอุตสาหกรรมเด่น รับนักลงทุนจากจีน
ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวในประเทศไทยเท่านั้นที่มีศักยภาพในการดึงนักท่องเที่ยว แต่ยังมีภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมหลายอย่างที่น่าสนใจ เช่น ยานยนต์, เครื่องจักรกลทางการเกษตร, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอสังหาริมทรัพย์ โดยในพื้นที่ที่มีการขอจดทะเบียนลงทุนมากที่สุดอยู่ในเขต นิคมอุตสาหกรรม ภาคตะวันออกมากถึง 469 โครงการ หากใครสังเกตในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีการย้ายฐานผลิตจากประเทศจีนเข้าสู่ไทยจำนวนมาก เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ EV CAR และเครื่องจักรกล, อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ดังจะเห็นได้จากรถยนต์ไฟฟ้าหลายยี่ห้อจากประเทศจีนที่มียอดจองในงาน Motor Expo ที่มียอดจองรวมกันเป็นอันดับ 1  

โดย สวนอุตสาหกรรม 304 พื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา ทั้ง 2 จังหวัดเป็นพื้นที่ สวนอุตสาหกรรม ได้รับสิทธิประโยชน์จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) โดยมีโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคเพียบพร้อม รองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมทุกประเภท โดยเฉพาะนักลงทุนจากประเทศจีน เพื่อสนับสนุนและกระตุ้นการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ สามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวและกัมพูชาได้ 

ที่มาของข้อมูล
ลงนามแล้ว ฟรีวีซ่าไทย-จีน ภายหลังจากในปี ค.ศ. 2023 ที่ผ่านมามีการทดลองการใช้หนังสือเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าของคนจีนให้สามารถเข้ามาท่องเที่ยวและทำธุรกิจในประเทศไทยได้ ถือว่ามีความประสบความสำเร็จจนนำมาสู่การลงนามข้อตกลงว่าด้วยเรื่องการยกเว้นวีซ่าของคนไทยกับคนจีน เมื่อวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 2024 ที่ผ่านมา โดยจะมีผลบังคับใช้ทันทีใน วันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2024 นี้เป็นต้นไป 

เปิดเงื่อนไขฟรีวีซ่าไทย-จีน
  • ยกเว้นการตรวจลงตราประทับสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาและผู้ถือหนังสือเดินทางกึ่งราชการ ในการเดินทางเข้า - ออก หรือผ่านแดนของทั้งสองฝ่าย 
  • สามารถพำนักแต่ละครั้งได้ไม่เกิน 30 วัน และรวมระยะเวลา ไม่เกิน 90 วัน ภายในช่วงเวลา 180 วัน
  • ยกเว้นการพำนักถาวร ทำงาน การศึกษา กิจกรรมอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการอนุญาตล่วงหน้าจากหน่วยงานที่รับผิดชอบของอีกฝ่าย
ฟรีวีซ่าไทยจีน ไม่ได้มีดีแค่ท่องเที่ยว
แม้หลายภาคส่วนต่างออกมายินดีเกี่ยวกับการลงนามฟรีวีซ่าไทย-จีน เมื่อวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 2024 ที่ผ่านมา ว่าไทยจะได้รับอานิสงส์จากนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมาก หลังจากในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจากจีนเพิ่มขึ้น แม้จะไม่สามารถเทียบกับช่วงเวลาเดียวก่อนที่จะเกิดวิกฤตโควิดก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามยังเป็นตัวเลขที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะการเข้ามาลงทุนของนักธุรกิจจากประเทศจีน จากสถิติการลงทุนใน นิคมอุตสาหกรรม โดยตรงจากต่างประเทศในปี ค.ศ. 2023  ระหว่างเดือนมกราคม - กันยายน มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมจำนวน 910 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 398,527 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปี ค.ศ. 2022 (ม.ค. - ก.ย.) จำนวนโครงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 48 ส่วนมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศจีนมากถึง 264 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 29 ของโครงการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด สำหรับมูลค่าเงินลงทุนสูงสุดมาจากนักลงทุนชาวจีน มูลค่ารวม 97,464 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25 ของมูลค่าเงินลงทุนจากต่างประเทศ รองลงมาเป็นสิงคโปร์และญี่ปุ่นตามลำดับ

เผยอุตสาหกรรมเด่น รับนักลงทุนจากจีน
ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวในประเทศไทยเท่านั้นที่มีศักยภาพในการดึงนักท่องเที่ยว แต่ยังมีภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมหลายอย่างที่น่าสนใจ เช่น ยานยนต์, เครื่องจักรกลทางการเกษตร, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอสังหาริมทรัพย์ โดยในพื้นที่ที่มีการขอจดทะเบียนลงทุนมากที่สุดอยู่ในเขต นิคมอุตสาหกรรม ภาคตะวันออกมากถึง 469 โครงการ หากใครสังเกตในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีการย้ายฐานผลิตจากประเทศจีนเข้าสู่ไทยจำนวนมาก เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ EV CAR และเครื่องจักรกล, อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ดังจะเห็นได้จากรถยนต์ไฟฟ้าหลายยี่ห้อจากประเทศจีนที่มียอดจองในงาน Motor Expo ที่มียอดจองรวมกันเป็นอันดับ 1  

โดย สวนอุตสาหกรรม 304 พื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา ทั้ง 2 จังหวัดเป็นพื้นที่ สวนอุตสาหกรรม ได้รับสิทธิประโยชน์จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) โดยมีโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคเพียบพร้อม รองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมทุกประเภท โดยเฉพาะนักลงทุนจากประเทศจีน เพื่อสนับสนุนและกระตุ้นการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ สามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวและกัมพูชาได้ 

ที่มาของข้อมูล