ปิด

GI มาตรฐานใหม่สำหรับอุตสาหกรรมสีเขียว การเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน

A New Standard for the Green Industry and Transition to Sustainability
ในยุคปัจจุบันความต้องการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกภาคส่วนควรให้ความสนใจ การใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า รวมถึงการลดมลพิษต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนคือสิ่งที่จำเป็น ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงมาตรฐานใหม่ที่ชื่อว่า GI (Green Industry) หรืออุตสาหกรรมสีเขียว ที่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในประเทศไทย โดยเฉพาะกับภาคอุตสาหกรรมและการพัฒนาในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น นิคมอุตสาหกรรม 304 ซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่ความยั่งยืน

GI (Green Industry) คืออะไร มีหลักการอย่างไร
GI หรือ Green Industry หมายถึงมาตรฐานที่กำหนดขึ้นเพื่อให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ มีการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อธรรมชาติ หลักการของ GI คือการส่งเสริมให้โรงงานหรือธุรกิจอุตสาหกรรมมีการลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยมลพิษ และใช้งานทรัพยากรมีค่าที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อให้การดำเนินธุรกิจไม่เพียงแค่มีผลกำไร แต่ยังคำนึงถึงการปกป้องสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดีของสังคมในระยะยาว

มาตรฐาน GI ถูกแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ประกอบไปด้วย
  • ระดับที่ 1 Green Commitment
โรงงานในระดับนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินงานขององค์กรให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังไม่ได้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม
  • ระดับที่ 2 Green Activity
โรงงานที่อยู่ในระดับนี้จะมีการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งเสริมการปกป้องสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการใช้พลังงาน หรือการจัดการของเสียอย่างเหมาะสม แต่ยังไม่ได้ครอบคลุมทุกด้าน
  • ระดับที่ 3 Green System
โรงงานในระดับนี้จะมีการจัดการสิ่งแวดล้อมแบบเป็นระบบ มีการนำระบบมาตรฐานสากลหรือมาตรฐานที่เกี่ยวข้องมาใช้ในกระบวนการทำงาน เช่น ISO 14001
  • ระดับที่ 4 Green Culture
โรงงานระดับนี้มีการพัฒนาให้การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร ทุกภาคส่วนในองค์กรมีความเข้าใจและร่วมมือในการรักษาสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการทำงาน
  • ระดับที่ 5 Green Network
เป็นระดับสูงสุดที่โรงงานมีการดำเนินงานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างสมบูรณ์ ไม่เพียงแต่ในองค์กรของตัวเอง แต่ยังร่วมมือกับเครือข่ายอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียวให้เติบโตยิ่งขึ้น

การเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวของอุตสาหกรรมเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐาน GI
การที่จะให้ธุรกิจหรือโรงงานสามารถผ่านมาตรฐาน GI ได้ จำเป็นต้องมีการปรับตัวในหลายด้าน อุตสาหกรรมต้องปรับกระบวนการผลิตให้ลดการใช้พลังงานและทรัพยากรบางอย่างที่ไม่จำเป็น การใช้วัสดุรีไซเคิลหรือการนำกลับมาใช้ใหม่ เป็นสิ่งที่ช่วยให้อุตสาหกรรมสอดคล้องกับแนวคิดนี้มากยิ่งขึ้น

ความสำคัญของการลดการใช้พลังงานและทรัพยากรในอุตสาหกรรมสีเขียว
การลดการใช้พลังงานและทรัพยากรในอุตสาหกรรมสีเขียวไม่เพียงแค่ช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการลดต้นทุนให้กับธุรกิจเองด้วย การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้อย่างมาก ในขณะที่การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าช่วยลดการสูญเสียและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต

นอกจากนี้การลดการใช้พลังงานยังมีผลกระทบโดยตรงต่อการลดก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัจจุบันหลายอุตสาหกรรมในประเทศไทยเริ่มเห็นถึงความสำคัญของการลดการใช้พลังงาน เช่น ที่ดินนิคมอุตสาหกรรม 304 มีโรงงานหลายแห่งมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยในการลดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

มาตรการในการลดมลภาวะและของเสียเพื่อให้ผ่านมาตรฐาน GI
หนึ่งในข้อกำหนดสำคัญของมาตรฐาน GI คือการลดมลภาวะและของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิต มาตรการที่นำมาใช้ในการลดมลภาวะและของเสีย ได้แก่
  • รีไซเคิล การนำของเสียที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่กลับเข้าสู่กระบวนการผลิต ช่วยลดปริมาณของเสียที่ปล่อยออกจากโรงงาน
  • การจัดการน้ำเสีย การใช้เทคโนโลยีบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพก่อนปล่อยน้ำกลับสู่สิ่งแวดล้อม
  • การควบคุมการปล่อยมลพิษในอากาศ มีการติดตั้งระบบกรองและควบคุมอากาศเพื่อลดการปล่อยมลพิษเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ
การนำมาตรการเหล่านี้มาใช้จะช่วยให้โรงงานใน พื้นที่นิคมอุตสาหกรรม สามารถผ่านมาตรฐาน GI ได้ และยังช่วยให้การดำเนินงานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

บทบาทของเทคโนโลยีสีเขียวในการยกระดับอุตสาหกรรม
เทคโนโลยีสีเขียวมีบทบาทสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรม เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและในขณะเดียวกันยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ตัวอย่างของเทคโนโลยีสีเขียวที่ถูกนำมาใช้ในภาคอุตสาหกรรม ได้แก่
  • พลังงานหมุนเวียน การใช้พลังงานจากแหล่งธรรมชาติ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ช่วยลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิล
  • การจัดการพลังงานอัจฉริยะ ระบบที่สามารถควบคุมและบริหารจัดการการใช้พลังงานในโรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  • การใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ นำวัสดุที่ใช้แล้วมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตใหม่
ที่ดินนิคม อุตสาหกรรมหลายแห่งในประเทศไทยกำลังนำเทคโนโลยีสีเขียวเหล่านี้มาใช้ในการพัฒนาพื้นที่ เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของธุรกิจที่ต้องการดำเนินงานอย่างยั่งยืน

การสร้างวัฒนธรรมองค์กรเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมสีเขียว
การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สอดคล้องกับแนวทางอุตสาหกรรมสีเขียวเป็นเรื่องที่สำคัญ วัฒนธรรมองค์กรที่ดีจะช่วยให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ตัวอย่างเช่น องค์กรใน ที่ดินนิคม 304 เริ่มสร้างนโยบายและกิจกรรมที่เน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมภายในองค์กร ทั้งในกระบวนการผลิตและในกิจกรรมต่าง ๆ ของพนักงาน เช่น การใช้พลังงานอย่างประหยัด การลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น และการส่งเสริมให้พนักงานทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อม

สวนอุตสาหกรรม 304 ไม่เพียงแต่ ขายที่ดินนิคม304 เท่านั้น แต่ยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมให้ได้มาตรฐาน GI เพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน หากคุณกำลังสนใจที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมของคุณให้สอดคล้องกับมาตรฐาน GI การมองหาพื้นที่ ขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรม จึงเป็นทางเลือกที่ดีและเหมาะสม เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันในตลาดโลกที่กำลังมุ่งเน้นเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ที่มาข้อมูล
  • https://www.nstda.or.th/nac/2023/seminar/se43/
  • chrome-extension://efaidnbmnnnibpcajpcglclefindmkaj/https://greenindustry.diw.go.th/webgi/wp-content/uploads/2022/06/GI_Manual_Thai.pdf
  • https://www.greennetworkthailand.com/วัฒนธรรมสีเขียว/