ปิด

BOI เร่งเครื่องดึงดูดการลงทุน พร้อมรับมือเทรนด์เทคโนโลยีอนาคต

BOI Accelerates Investment Attraction, Preparing to Embrace Future Technology Trends
เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่แทรกซึมอยู่ในทุกกิจวัตรของคนในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีส่วนสำคัญที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตที่น่าจับตามอง ได้แก่ เทคโนโลยีดิจิทัล ที่ส่งผลให้เกิดการพัฒนาในระบบต่าง ๆ รวมไปถึงแวดวงอุตสาหกรรม การลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงทิศทางของสังคมไทยและสังคมโลกเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้

แนวโน้มการลงทุนเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตในประเทศไทย
จากรายงานการคาดการณ์อนาคต เทคโนโลยีดิจิทัลประเทศไทย 2035 ที่นำเสนอโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (สศด.) ระบุไว้ว่า 11 แนวโน้มสำคัญและแนวโน้มทางเทคโนโลยีที่จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจดิจิทัลของโลกและประเทศไทย ได้แก่ การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ความก้าวหน้าของเมืองอัจฉริยะและระบบนิเวศอัจฉริยะ การสร้างและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ การเติบโตของธุรกิจ E-commerce และร้านสะดวกซื้อ การเชื่อมต่อที่มากขึ้นสวนทางกับความเป็นส่วนตัวที่ลดลง การเพิ่มขึ้นของสังคมผู้สูงอายุ ทรัพยากรธรรมชาติที่ลดลง ขั้วอำนาจของเศรษฐกิจที่อาจเปลี่ยนแปลง สภาพอากาศแปรปรวน และการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงาน จะเห็นได้ว่าแนวโน้มการให้ความสำคัญทางเทคโนโลยีเป็นประเด็นใหญ่ไม่น้อยไปกว่าสภาพแวดล้อมทางสังคม ที่มีแนวโน้มใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและมุ่งเน้นการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนมากขึ้น

มาตรการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอครอบคลุมอุตสาหกรรมใดบ้าง
ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) ที่ผ่านมติที่ประชุมของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) มุ่งเน้นให้อุตสาหกรรมไทยปรับเปลี่ยนสู่ยุค “เศรษฐกิจใหม่” (New Economy) ที่เน้นเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืน โดยมี 9 มาตรการใหม่ที่จะช่วยส่งเสริมการลงทุนและครอบคลุมในหลาย ๆ อุตสาหกรรม ประกอบด้วย
  1. มาตรการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ เพิ่มหมวดอุตสาหกรรมเดิมจาก 7 เป็น 10 เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ใหม่ เช่น การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า อาหารแห่งอนาคต และพลังงานไฮโดรเจน โดยกลุ่มกิจการเหล่านี้จะได้รับสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐาน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม A จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ 3 – 13 ปี กลุ่ม B จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ภาษีเงินได้ และกลุ่ม A1+ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง สามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับสถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัยได้
  2. มาตรการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มสิทธิประโยชน์สำหรับการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรม เช่น การออกแบบ วิจัยและพัฒนา และการพัฒนาบุคลากร สำหรับสิทธิประโยชน์กลุ่มนี้สามารถกำหนดวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ถึง 200% ของเงินลงทุนหรือค่าใช้จ่าย
  3. มาตรการรักษาและขยายฐานการผลิตเดิม (Retention & Expansion Program) เพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้ยังคงใช้ไทยเป็นฐานผลิตและขยายการลงทุนมากขึ้น เงื่อนไขที่เข้าข่ายมาตรการนี้ต้องเป็นผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนเดิมที่มีการลงทุนใน 15 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 – 2565 ไม่น้อยกว่า 3 โครงการ และมูลค่าเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท
  4. มาตรการส่งเสริมการย้ายฐานธุรกิจแบบครบวงจร (Relocation Program) มาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นการย้ายฐานผลิตมาที่ไทยอย่างครบวงจร ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ โรงงานผลิต สำนักงานภูมิภาค และศูนย์วิจัยพัฒนา หากมีการย้ายฐานธุรกิจแบบครบวงจรจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่กิจการผลิตเพิ่มเติม 5 ปี โดยต้องยื่นคำขอภายในปี 2566 (ปัจจุบันขยายเวลาต่อ : โดยเปิดให้ยื่นคำขอในวันทำการวันแรกของปี 2568 จนถึงสิ้นปี 2568)
  5. มาตรการกระตุ้นการลงทุนในระยะฟื้นฟูเศรษฐกิจ กำหนดสิทธิประโยชน์เพื่อกระตุ้นการลงทุนขนาดใหญ่ ในช่วงปี พ.ศ. 2566 – 2567 ซึ่งจะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้ 50% เป็นเวลา 5 ปี เมื่อลงทุนไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท ภายใน 12 เดือน
  6. มาตรการยกระดับอุตสาหกรรม (Smart and Sustainable Industry) กระตุ้นให้นักลงทุนปรับเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการผลิต ใช้เครื่องจักรประหยัดพลังงาน หรือใช้พลังงานทดแทน โดยจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี สำหรับรายได้ของกิจการเดิมที่ดำเนินการอยู่ ในสัดส่วน 50% หรือ 100% ของเงินลงทุน
  7. มาตรการส่งเสริมการลงทุน SMEs เพิ่มสิทธิประโยชน์และกำหนดคุณสมบัติของ SMEs ให้ชัดเจนมากขึ้น โดยให้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 – 8 ปี (แล้วแต่ประเภทกิจการ) เพิ่มวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ถึง 200% ของเงินลงทุน รวมถึงสามารถเพิ่มสิทธิประโยชน์ตามมาตรการอื่นได้
  8. มาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เป้าหมาย เพิ่มการลงทุนของ นิคมอุตสาหกรรม หรือ สวนอุตสาหกรรม ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและตะวันตก ภาคตะวันออก ซึ่งหากมีการลงทุนพัฒนาบุคลากร มีการวิจัยและพัฒนา รวมถึงเป็นกิจการเป้าหมายในกลุ่ม A1+ จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้เพิ่มอีก 2 ปี หากเป็นกลุ่มที่ได้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 – 8 ปีอยู่แล้ว จะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้ 50% เพิ่มขึ้น 3 ปี
  9. มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม เพิ่มสิทธิประโยชน์สำหรับการลงทุนเพื่อชุมชน โดยนักลงทุนต้องลงทุนในการสนับสนุนโครงการชุมชน พัฒนาผลิตภัณฑ์ การท่องเที่ยว ระบบน้ำและการเกษตร ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท รวมถึงเพิ่มเรื่องการศึกษา สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม ให้แก่องค์กรท้องถิ่น รายละไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท จะได้รับวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 200% ของวงเงินสนับสนุน
ทำไม Western Digital ถึงเลือกประเทศไทยเป็นแลนด์มาร์คในการผลิตเทคโนโลยีสู่ตลาดโลก
บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล (Western Digital : WD) ผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รายใหญ่ที่มีส่วนแบ่งในตลาดโลกสูงถึงร้อยละ 40 ได้เข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตหลักในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2540 มีการจ้างงานมากกว่า 28,000 คน และโรงงานในประเทศไทยยังเป็นโรงงานผลิตฮาร์ดดิสก์เพียงแห่งเดียวที่มีการประกอบจนถึงขั้นตอนสุดท้าย นอกจากนี้บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล ยังมีการขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาบีโอไอได้อนุมัติคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนของบริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในการขยายกิจการผลิตฮาร์ดดิสก์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ที่ นิคมอุตสาหกรรม บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ สวนอุตสาหกรรม 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค จังหวัดปราจีนบุรี มูลค่าการลงทุน 23,516 ล้านบาท เพื่อขยายฐานผลิต Hard Disk Drive สำหรับรองรับเทคโนโลยีคลาวด์และ Data Center ซึ่งต้องใช้ระบบประมวลผลรวมถึงการจัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูง สะท้อนแนวโน้มอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก 

ความคาดหวังของอุตสาหกรรมไทยกับเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต
ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะเปิดรับนักธุรกิจเพื่อเข้ามาลงทุนในไทย โดยมีมาตรการต่าง ๆ ที่ปรับเปลี่ยนเพื่อดึงดูดทั้งนักธุรกิจรายใหญ่และรายย่อย อย่างธุรกิจ SMEs หรือ Start Up มีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับผู้ที่นำเอาเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ มีแนวคิดใส่ใจสิ่งแวดล้อม และคืนประโยชน์สู่สังคมเพื่อเป็นการสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน 

มั่นใจในการลงทุน ด้วยบริการครบวงจรจาก 304 Industrial Park
หากกำลังมองหาฐานที่ตั้งเพื่อการทำอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน สวนอุตสาหกรรม 304 เป็นหนึ่งในที่ดินนิคมที่มีความพร้อมรองรับอุตสาหกรรมทุกอุตสาหกรรม มีบริการให้คำปรึกษาและให้ความช่วยเหลือในการจัดตั้งธุรกิจในไทยอย่างครบวงจร (One Stop Service) อีกทั้งได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ช่วยให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมและเขตอุตสาหกรรมได้

ที่มาข้อมูล
  • DEPA การคาดการณ์อนาคต เทคโนโลยีดิจิทัลประเทศไทย 2035 https://www.depa.or.th › app › file
  • https://ic.or.th/th/about-us/boi-news/1399-บีโอไอเผยลงทุนครึ่งปีแรกพุ่ง-4-5-แสนล้าน-เร่งโรดโชว์ดึงลงทุน-พร้อมปรับโครงสร้างการผลิตให้แข่งขันได้.html 
  • https://www.boi.go.th/index.php?page=press_releases_detail&topic_id=133321
  • https://www.blockdit.com/posts/66cc1b5bab415d9782994b31