Mega Trend คือ ทิศทางการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจมหภาค ที่สามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคมและการใช้ชีวิตของประชาชนโดยทั่วไป โดยสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นแรงกระเพื่อมอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ การเตรียมตัวให้พร้อมจึงมีความสำคัญที่สุดเพื่อโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่จะเข้ามา ดังนั้น ควรไปทำความรู้จักกับ 4 Mega Trend ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อประเทศไทย เพื่อใช้กำหนดทิศทางในการดำเนินชีวิตโดยเฉพาะทางธุรกิจและการลงทุน
Trend ที่ 1 เทคโนโลยีและดิจิทัล
คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธได้ว่าการระบาดของไวรัสโคโรน่า หรือโควิด19 เมื่อต้นปี 2020 ที่ผ่านมานั้น เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมากที่สุดแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องของเทคโนโลยีและดิจิทัล ดังจะเห็นได้จากการปิดสถานศึกษา, ร้านค้า, ห้างร้าน, บริษัทและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จนนำมาซึ่งการเรียนการสอนและการประชุมด้วยระบบออนไลน์ ซึ่งส่งผลกระทบกับเด็กนักเรียนและผู้ปกครองในวงกว้าง โดยเฉพาะในเรื่องของอุปกรณ์แต่ก็จำเป็นที่จะต้องหามาให้เพื่อลูกหลานตนเองได้เรียนและใช้งาน บริษัทหลายแห่งเลือกที่จะให้บุคลากรหยุดทำงานอยู่ที่บ้าน ส่งงานและประชุมออนไลน์ เพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสและติดเชื้อ มีการปรับปรุงระบบแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินออนไลน์เพื่อให้ประชาชนได้เลือกใช้งานเพื่อลดการสัมผัสเงินตรา จนนำมาซึ่งการหาสมาร์ทโฟนเพื่อจะได้ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการที่ทางภาครัฐออกมาตรการมาเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย เช่น โครงการคนละครึ่ง , โครงการเราชนะ ฯลฯ และเป็นการผลักดันให้ผู้คนได้ใช้จ่ายเงินผ่านระบบดิจิทัลกันมากขึ้น เราจึงจำเป็นที่จะต้องได้รับการพัฒนาในเรื่องของระบบไม่ว่าจะเป็น Network, AI, Blockchain, IoT, Virtual Reality, Cloud และ Robots เพราะจะช่วยทำให้ทุกคนได้รับความสะดวกสบายและปลอดภัยในการทำธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น นอกจากนี้ยังต้องพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อตอบโจทย์การทดแทนแรงงานที่จะขาดแคลนในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย
Trend ที่ 2 พลังงานไฟฟ้ากำลังจะมา
หากย้อนไปในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา หลายท่านคงจะเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการออกมาให้คำมั่นสัญญาของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายค่ายไม่ว่าจะเป็น Mercedes Benz, BMW, NISSAN, HONDA และล่าสุด TOYOTA ที่ไม่สามารถต้านทานกระแสความร้อนแรงนี้ เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นออกมาประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่าห้ามจำหน่ายรถยนต์ใช้น้ำมันในปี 2030 นี้ เพื่อให้รถยนต์ใหม่ที่วิ่งมีแต่รถไฟฟ้า จึงไม่แปลกใจที่ในปี 2020 ที่ผ่านมาจะเริ่มเห็นรถไฟฟ้าทั้งในรูปแบบ BEV, EREV, PHEV และ HEV ออกมาจำหน่ายกันมากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่สามารถพัฒนาไปถึงขีดสุดของความสามารถนี้ได้และเป็นปัญหาที่กำลังได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐ TESLA ที่ออกมาประกาศกร้าวว่าจะพัฒนาแบตเตอรี่รถยนต์ของเทสล่าให้มีอายุการใช้งานยาวถึง 50 ปี ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ส่งผลให้หุ้นของบริษัทเทสล่าทะยานสูงขึ้นจนทำราคาจุดสูงสุดใหม่หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีบริษัทที่ให้ความสนใจและเริ่มพัฒนาแบตเตอรี่รถไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพดีเพื่อตอบรับเทรนแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ เท่านั้นยังไม่พอ เพราะยังมีในส่วนของชิ้นส่วนยานยนต์ที่จะต้องปรับเปลี่ยนไลน์การผลิตจากรถใช้น้ำมันสู่รถไฟฟ้ากันมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในอนาคต
Trend ที่ 3 สังคมผู้สูงอายุกำลังจะเริ่มต้น
จริง ๆ ต้องบอกว่าเริ่มขึ้นแล้วเสียมากกว่า อ้างอิงจากข้อมูลสถิติประชากรไทยสิ้นปี 2562 ที่มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 66.56 ล้านคน สามารถแยกตามช่วงอายุได้ดังนี้