กลับ ส่องโอกาสพลิกฟื้นของกิจการ SME ไทย ยังไหวไหม เดินหน้าไปต่ออย่างไร
ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจ SME ของไทยได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก หลังผลกระทบจากโควิด-19 แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าโอกาสที่ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางจะพลิกฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็วได้ เพราะมีการปรับลดองค์กรได้ง่ายและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เนื่องจากธุรกิจ SME มีต้นทุนต่ำมากในการดำเนินกิจการ เพียงมองหาโรงงานให้เช่าสักแห่งใน สวนอุตสาหกรรม ซึ่งมีศูนย์กลางกระจายสินค้าขนาดใหญ่ ใกล้แหล่งวัตถุดิบในการผลิต พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทำเลไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนัก ก็จะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางสามารถฟื้นตัวและกลับมายืนได้อีกครั้ง
กล่าวได้ว่ามาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย แต่สิ่งที่สวนทางกันคือธุรกิจอีคอมเมิร์ซและการขายของออนไลน์กลับเติบโตแบบก้าวกระโดด ทำให้ธุรกิจ SME ต่างร่วมวงเข้าสู่ธุรกิจออนไลน์กันมากขึ้น การปรับตัวเป็นส่วนสำคัญที่สุดของการทำธุรกิจในอนาคต ดังจะเห็นได้จากหลายบริษัทหันมาใช้ช่องทางการขายสินค้าและประชาสัมพันธ์ตนเองผ่านระบบออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เช่น การเปิดเพจ facebook, Instagram, Youtube เพื่อให้แฟนคลับติดตามและเลือกซื้อสินค้าตามใจชอบ ด้วยการจัดส่งที่รวดเร็วผ่านบริษัทขนส่งชั้นนำในประเทศ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของสถานการณ์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว แต่ธุรกิจขนาดเล็กที่ปรับตัวได้ก่อนจะสามารถประคองตัวผ่านสถานการณ์ความลำบากช่วงนี้ไปได้ แตกต่างจากธุรกิจขนาดใหญ่ใน นิคมอุตสาหกรรม ที่มีโครงสร้างซับซ้อนยากต่อการเปลี่ยนแปลงทำให้มีสินค้าตกค้างจำนวนมากและเกิดปัญหาการขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรงโอกาสพลิกฟื้นกลับมาอาจไม่เป็นไปตามที่คาดได้
โอกาสส่งออกจะกลับมาได้หลังการฟื้นตัวของจีน
ปัจจุบันตัวเลขการส่งออกกับมาดีขึ้น ด้วยอานิสงค์ของค่าเงินบ้านที่อ่อนตัวลง ประกอบกับการผลิตสินค้าอุปกรณ์ไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความต้องการในตลาดโลกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่และเริ่มฟื้นตัวเป็นประเทศแรก ภายหลังจากการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสอย่างจริงจัง กำลังเดินหน้าสู่การเป็นอภิมหาอำนาจทางด้านเศรษฐกิจอีกครั้ง ด้วยช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์มากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่ยอดขายภายในประเทศแต่รวมถึงสินค้าที่สั่งตรงจากประเทศไทยอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีตลาดต่างประเทศอื่น ๆ อีกมาก เช่น สหรัฐอเมริกา, ยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่มาข้อมูล:
ผลกระทบของโควิดต่อเศรษฐกิจไทยและ SME
กล่าวได้ว่ามาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย แต่สิ่งที่สวนทางกันคือธุรกิจอีคอมเมิร์ซและการขายของออนไลน์กลับเติบโตแบบก้าวกระโดด ทำให้ธุรกิจ SME ต่างร่วมวงเข้าสู่ธุรกิจออนไลน์กันมากขึ้น การปรับตัวเป็นส่วนสำคัญที่สุดของการทำธุรกิจในอนาคต ดังจะเห็นได้จากหลายบริษัทหันมาใช้ช่องทางการขายสินค้าและประชาสัมพันธ์ตนเองผ่านระบบออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เช่น การเปิดเพจ facebook, Instagram, Youtube เพื่อให้แฟนคลับติดตามและเลือกซื้อสินค้าตามใจชอบ ด้วยการจัดส่งที่รวดเร็วผ่านบริษัทขนส่งชั้นนำในประเทศ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของสถานการณ์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว แต่ธุรกิจขนาดเล็กที่ปรับตัวได้ก่อนจะสามารถประคองตัวผ่านสถานการณ์ความลำบากช่วงนี้ไปได้ แตกต่างจากธุรกิจขนาดใหญ่ใน นิคมอุตสาหกรรม ที่มีโครงสร้างซับซ้อนยากต่อการเปลี่ยนแปลงทำให้มีสินค้าตกค้างจำนวนมากและเกิดปัญหาการขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรงโอกาสพลิกฟื้นกลับมาอาจไม่เป็นไปตามที่คาดได้
3 กลยุทธ์เสริมความแกร่ง มีอะไรต้องปรับตัวบ้าง
- การลงทุนในอีคอมเมิร์ซ สื่อออนไลน์ เป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่ภาคธุรกิจควรให้ความสนใจ ด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป อีกทั้งการเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าและตลาดยังมีความเสี่ยงอยู่มาก ตราบใดที่ปปริมาณคนติดเชื้อยังไม่ลดจำนวนลงแบบมีนัยยะ การเลือกใช้บริการเช่าโรงงานสำเร็จรูปใน สวนอุตสาหกรรม ที่ใกล้เมืองหลวง มากกว่าซื้อหรือทุ่มงบประมาณในการก่อสร้างโรงงานใหม่ก็จะช่วยในส่วนของการลดต้นทุนลงไปได้มาก
- ลงทุนในระบบโลจิสติกส์เพื่อสร้างความแตกต่างและลดต้นทุนด้านแรงงาน ก็จะช่วยให้ธุรกิจกลับมามีกำไรได้อย่างไม่ยากเย็นนัก โดยเฉพาะการเลือกใช้บริการ คลังสินค้าสำเร็จรูป ที่ตั้งอยู่ภายใน นิคมอุตสาหกรรม เพราะนอกจากจะใช้เงินลงทุนที่ต่ำแล้วยังใกล้ศูนย์กระจายสินค้า แหล่งผลิตวัตถุดิบ ทำให้ลดต้นทุนการเดินทาง ลดเวลาในการจัดส่งสินค้าลงได้
- นิคมอุตสาหกรรม นอกจากจะเต็มไปด้วยโรงงานที่ผลิตสินค้าสำเร็จรูปและวัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนการผลิต ยังได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ทั้งในส่วนของการละเว้นภาษี การให้การช่วยเหลือการขออนุญาตต่าง ๆ เกี่ยวกับการประกอบกิจการโรงงาน การขอหนังสือรับรองคนต่างด้าว เป็นต้น ซึ่งพื้นที่ที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีมากที่สุดได้แก่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ ECC จะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถดำเนินกิจการและแข่งขันกับธุรกิจอื่น ๆ ได้
โอกาสส่งออกจะกลับมาได้หลังการฟื้นตัวของจีน
ปัจจุบันตัวเลขการส่งออกกับมาดีขึ้น ด้วยอานิสงค์ของค่าเงินบ้านที่อ่อนตัวลง ประกอบกับการผลิตสินค้าอุปกรณ์ไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความต้องการในตลาดโลกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่และเริ่มฟื้นตัวเป็นประเทศแรก ภายหลังจากการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสอย่างจริงจัง กำลังเดินหน้าสู่การเป็นอภิมหาอำนาจทางด้านเศรษฐกิจอีกครั้ง ด้วยช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์มากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่ยอดขายภายในประเทศแต่รวมถึงสินค้าที่สั่งตรงจากประเทศไทยอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีตลาดต่างประเทศอื่น ๆ อีกมาก เช่น สหรัฐอเมริกา, ยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สำหรับธุรกิจ SME ที่กำลังมองหาโรงงานสำเร็จรูปใน สวนอุตสาหกรรม เพื่อลดต้นทุน ในการเริ่มต้นธุรกิจ สวนอุตสาหกรรม 304 ประกอบธุรกิจให้เช่าโรงงานสำเร็จรูป มีทำเลที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีและฉะเชิงเทราซึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ซึ่งจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นหนึ่งในพื้นที่ EEC ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีและสิทธิพิเศษอื่น ๆ จาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อีกด้วย
ที่มาข้อมูล:
- https://www.304industrialpark.com/th/
- https://www.304industrialpark.com/th/why-304
- https://www.warehousechod.com/th/news/detail?d=qQIcZ3tk
- https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/business-covid-19
- https://www.tmbameastspring.com/insights/2020-mid-year-outlook-perspectives-from-china
ติดต่อเรา