ไทยเปิดตัวศูนย์บริการการลงทุนครบวงจร TIESC ณ One Bangkok ผนึกกำลัง BOI ตม. และแรงงาน
เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 ประเทศไทยได้เปิดตัว ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จเพื่อการลงทุน Thailand Investment and Expatriate Services Center (TIESC) อย่างเป็นทางการ ณ โครงการ One Bangkok ที่ชั้น 6 และ 7 โซน PARADE ถนนพระราม 4 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการรวมพลังกันระหว่าง 3 หน่วยงานหลัก ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI), สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และ กระทรวงแรงงาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักลงทุนต่างชาติแบบครบวงจร โดยมีเป้าหมายหลักคือ การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีเศรษฐกิจโลก
TIESC คืออะไร?
TIESC ย่อมาจาก Thailand Investment and Expatriate Services Center หรือ “ศูนย์บริการนักลงทุนและบุคลากรต่างชาติในประเทศ” มีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็น One-Stop Service ที่ให้บริการแก่ นักลงทุนต่างชาติ และ แรงงานต่างชาติในระดับผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ครอบคลุมทั้งเรื่องการขอวีซ่า ใบอนุญาตทำงาน การจดทะเบียนบริษัท นิคมอุตสาหกรรม รวมถึงคำปรึกษาเชิงลึกด้านกฎหมายและแรงงาน ซึ่งแต่เดิมผู้ประกอบการต้องเดินเรื่องแยกต่างหากกับแต่ละหน่วยงานทำให้เสียเวลาในการเดินทาง
การที่ TIESC ผนึกกำลังกับ ตม. และแรงงาน จะช่วยลดขั้นตอนที่ซับซ้อนและลดเวลาในการดำเนินการเอกสารจากหลายสัปดาห์เหลือเพียงไม่กี่วัน ส่งผลให้ไทยสามารถแข่งขันกับประเทศในภูมิภาค อย่างสิงคโปร์หรือเวียดนาม ที่มีระบบบริการนักลงทุนแบบครบวงจรอยู่แล้ว
นอกจากศูนย์ TIESC ที่เปิดให้บริการ One Stop Service แล้ว สวนอุตสาหกรรม 304 ซึ่งเป็นผู้พัฒนาที่ดินเพื่ออุตสาหกรรมในจังหวัดปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรายังได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย (BOI) ยังมีบริการ One Stop Service จากทีมงานมืออาชีพ ประสบการณ์สูง ทั้งการแนะนำการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในสวนอุตสาหกรรมหรือขอ BOI, การขอถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินสำหรับนักลงทุนต่างชาติ และขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอีกด้วย
ที่มาของข้อมูล
ทำไม TIESC จึงสำคัญต่อนักลงทุน?
ในยุคที่แต่ละประเทศแข่งขันกันดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก “ความสะดวกในการเริ่มต้นธุรกิจ” คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนใช้พิจารณา TIESC จึงเป็นการตอบโจทย์เชิงยุทธศาสตร์ของรัฐบาลไทยที่ต้องการสร้าง “ระบบนิเวศที่เป็นมิตร” ต่อธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่ม ธุรกิจเทคโนโลยีขั้นสูง ดิจิทัล พลังงานสะอาดและการแพทย์ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายในยุทธศาสตร์ชาติ
การที่ TIESC ผนึกกำลังกับ ตม. และแรงงาน จะช่วยลดขั้นตอนที่ซับซ้อนและลดเวลาในการดำเนินการเอกสารจากหลายสัปดาห์เหลือเพียงไม่กี่วัน ส่งผลให้ไทยสามารถแข่งขันกับประเทศในภูมิภาค อย่างสิงคโปร์หรือเวียดนาม ที่มีระบบบริการนักลงทุนแบบครบวงจรอยู่แล้ว
ความสำคัญของ TIESC ต่อนักลงทุน
- ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกฎระเบียบการลงทุน สิทธิประโยชน์ทางภาษี ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจนโยบายส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลไทย เช่น โครงการ BOI (คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน)
- ช่วยประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ ให้ข้อมูลชาวต่างชาติที่ต้องการจะทำงานและลงทุนในประเทศไทย ประกอบไปด้วย นิคมอุตสาหกรรม กรมการจัดหางาน กรมธุรกิจการค้า สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อลดความซับซ้อนและเร่งกระบวนการ
- ให้บริการด้านการตรวจคนเข้าเมืองและขออยู่อาศัยในประเทศไทย โดยสำนักตรวจคนเข้าเมือง
- อำนวยความสะดวกด้านใบอนุญาตทำงาน สำหรับชาวต่างชาติที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI โดยกรมการจัดหางาน
- แก้ไขปัญหาและข้อร้องเรียน ทำหน้าที่เป็นช่องทางรับเรื่องร้องเรียนจากนักลงทุนและชาวต่างชาติ เพื่อแก้ไขอุปสรรคในการลงทุนหรือการใช้ชีวิตในประเทศไทย
- ส่งเสริมการลงทุนและสร้างความเชื่อมั่น การมี TIESC ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในฐานะประเทศที่เปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ และแสดงถึงความพร้อมในการสนับสนุนนักลงทุน
- บริการแบบ One-Stop Service รวมบริการต่าง ๆ ไว้ในศูนย์เดียว เพื่อลดความยุ่งยากและประหยัดเวลาให้กับนักลงทุน
ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ
การเปิดศูนย์ TIESC ไม่ได้ส่งผลดีแค่เฉพาะนักลงทุนเท่านั้น แต่ยังสร้างการจ้างงานและเพิ่มเม็ดเงินลงทุน ในประเทศอีกด้วย การเข้ามาของผู้เชี่ยวชาญต่างชาติยังนำมาซึ่ง การถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ สู่คนไทยในระยะยาว นอกจากนี้ TIESC ยังช่วยลดภาระของรัฐในแง่ของการจัดการระบบราชการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การจัดตั้ง TIESC ไม่ใช่แค่การเปิดศูนย์บริการใหม่ แต่เป็น หมุดหมายสำคัญของประเทศไทยในการยกระดับภาพลักษณ์ด้านการลงทุน บนเวทีโลก ด้วยความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์จาก 3 หน่วยงานหลัก TIESC จะเป็นประตูสำคัญที่เปิดรับการลงทุนคุณภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย ช่วยให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งภูมิภาคในอนาคต
นอกจากศูนย์ TIESC ที่เปิดให้บริการ One Stop Service แล้ว สวนอุตสาหกรรม 304 ซึ่งเป็นผู้พัฒนาที่ดินเพื่ออุตสาหกรรมในจังหวัดปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรายังได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย (BOI) ยังมีบริการ One Stop Service จากทีมงานมืออาชีพ ประสบการณ์สูง ทั้งการแนะนำการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในสวนอุตสาหกรรมหรือขอ BOI, การขอถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินสำหรับนักลงทุนต่างชาติ และขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอีกด้วย
ที่มาของข้อมูล
- https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/94907
- https://osos.boi.go.th/TH/news/2191/
- https://www.smeone.info/posts/view/5359