ปิด

อุตสาหกรรมยุคใหม่ ต้องปรับตัวอย่างไร ให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง

อุตสาหกรรม 4.0 กับการเปลี่ยนแปลงในไทย

ที่มาของรูป : https://www.pexels.com/photo/person-holding-silver-and-black-tube-type-vape-6153348/

การทำธุรกิจในอดีตจากเดิมที่เป็นยุคปลาใหญ่กินปลาเล็กหรือยุคที่เน้นเอาชนะคู่แข่ง แต่ในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วกับกลายเป็นปลาเล็กที่ว่ายน้ำเร็วหันมาเอาชนะปลาใหญ่ที่ดูเชื่องช้าได้ ด้วยการอาศัยเทคโนโลยีที่ไร้พรมแดน รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่ใช้ในกระบวนการผลิต เช่น โรงงานสำเร็จรูป คลังสินค้าที่พร้อมให้บริการ ระบบการขนส่งที่หลากหลายรวดเร็ว นักธุรกิจหน้าใหม่จึงไม่จำเป็นต้องไปเริ่มนับ 1 ใหม่อีกครั้ง แต่สามารถข้ามไปนับ 3-4-5 ได้เลยทันที 

การทำธุรกิจในอดีตจากเดิมที่เป็นยุคปลาใหญ่กินปลาเล็กหรือยุคที่เน้นเอาชนะคู่แข่ง แต่ในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วกับกลายเป็นปลาเล็กที่ว่ายน้ำเร็วหันมาเอาชนะปลาใหญ่ที่ดูเชื่องช้าได้ ด้วยการอาศัยเทคโนโลยีที่ไร้พรมแดน รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่ใช้ในกระบวนการผลิต เช่น โรงงานสำเร็จรูป คลังสินค้าที่พร้อมให้บริการ ระบบการขนส่งที่หลากหลายรวดเร็ว นักธุรกิจหน้าใหม่จึงไม่จำเป็นต้องไปเริ่มนับ 1 ใหม่อีกครั้ง แต่สามารถข้ามไปนับ 3-4-5 ได้เลยทันที 

อุตสาหกรรม 4.0 กับการเปลี่ยนแปลงในไทย

อุตสาหกรรม 4.0 คือการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการอาศัยเทคโนโลยีเพื่อช่วยในการจัดเก็บ วิเคราะห์ข้อมูลและประมวลผลถึงกระบวนการผลิต เพื่อการขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุคนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ช่วยให้เกิดการตื่นตัวและส่งผลกระทบต่อหลายธุรกิจและคนจำนวนมาก ผู้ประกอบและคนใช้แรงงานจะต้องปรับตัวในเรื่องของความรู้ ทักษะที่สำคัญตลอดจนทัศนคติที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ เพราะไม่อย่างนั้นอาจไม่สามารถต่อสู้และอยู่รอดในอุตสาหกรรมสมัยใหม่นี้ได้ 

ตัวอย่างเทคโนโลยีที่มาพร้อมอุตสาหกรรมสมัยใหม่

  1. Artificial Intelligence (AI) หรือที่เรียกในภาษาไทยว่า ปัญญาประดิษฐ์ เป็นระบบประมวลผลที่มีความฉลาดคล้ายมนุษย์ ที่มีพัฒนาการสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง เช่น Amy Ingram ผู้ช่วย AI อัจฉริยะ ที่ช่วยในการจัดตารางปฏิทิน, จัดงานประชุม เพียงแค่คัดลอกไปไว้ใน e-mail เท่านั้น หรือ Siri ของ Apple ที่สามารถสนทนาโต้ตอบในคำถามง่าย ๆ ได้
  2. ROBOTs ระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติ หากใครได้เคยดูคลิประบบหุ่นยนต์อัจฉริยะของโกดังสินค้า Alibaba จะต้องทึ่งในความสามารถอย่างแน่นอน เพราะใช้หุ่นยนต์ทำงานด้วยการรับคำสั่งผ่าน wifi ทำหน้าที่ขนย้ายสินค้าไปให้พนักงานเพื่อแพ็คของและจัดส่ง หุ่นแต่ละตัวสามารถรับน้ำหนักและยกของได้มากถึง 500 กิโลกรัม ทุกตัวสื่อสารด้วยระบบเซ็นเซอร์จึงทำให้การเคลื่อนไหวไม่มีการชนกันเอง เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมดก็จะกลับไปสถานีเพื่อทำการชาร์จไฟด้วยตนเอง ด้วยการทำงานดังกล่าวทำให้สามารถเพิ่มงานได้มากถึง 3 เท่า ลดการจ้างพนักงานไปมากถึง 70% 
  3. CLOUD คือระบบที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานที่หลากหลายในทุก ๆ ด้าน ทั้งระบบเครือข่าย, ฐานข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูล ตลอดจนการให้บริการซอฟแวร์ ฮาร์ดแวร์ เพื่อให้เจ้าของธุรกิจได้เลือกใช้งานและลดต้นทุนในการดำเนินกิจการ เช่น การมีระบบปฏิบัติการพร้อมซอฟแวร์ขององค์กรอยู่ในระบบ Cloud พนักงานสามารถ Login เข้าทำงานได้ทุกแห่งทั่วโลก เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตเท่านั้น โดยไม่จำเป็นต้องโทรสอบถามกลับมายังบริษัท เพราะข้อมูลที่ใช้งานเป็นระบบ Real Time  
  4. ระบบขนส่ง ปัจจุบันมีการพัฒนาโดรนและรถยนต์ไร้คนขับ เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้า เพื่อความปลอดภัย ลดอุบัติเหตุและความสูญเสียบนท้องถนน เพราะในแต่ละปีมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งหากระบบนี้ได้รับการปรับปรุงจนสมบูรณ์คาดว่าอาจส่งผลกระทบต่อพนักงานขับรถขนส่งจำนวนมาก ในขณะที่องค์กรก็จะลดค่าใช้จ่ายจำนวนมากด้วยเช่นกัน
พัฒนาคน พัฒนางาน สร้างโอกาสที่ดีกว่า

แม้จะมีเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยเติมเต็มให้ชีวิตและการทำงานดีขึ้น แต่การควบคุมและการป้อนข้อมูลยังจะต้องอาศัยคนในการทำงานอยู่ ดังนั้นเพื่อรับมือกับสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้ แรงงานควรได้รับการพัฒนาทักษะ ความสามารถเฉพาะและทัศนคติที่ดี ที่เทคโนโลยีเหล่านั้นไม่สามารถทำได้และเป็นการพัฒนาตนเองให้มีความรู้สามารถใช้งานเทคโนโลยีเหล่านั้นได้ เพื่อการปรับตัวและสร้างโอกาสที่ดีให้กับตนเองและองค์กร

ที่มาข้อมูล