สวนอุตสาหกรรม 304 (ฉะเชิงเทรา)
จุดเด่น
จากความสำเร็จของ ‘สวนอุตสาหกรรม 304 (ปราจีนบุรี)’ โครงการ สวนอุตสาหกรรม 304 (ฉะเชิงเทรา) จึงเริ่มดำเนินการขึ้น และได้รับการพัฒนาตามแนวคิด เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ หรือ Eco Industrial Town ในปี 2001 สวนอุตสาหกรรมแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ 6,000 ไร่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ทั้งยังตั้งอยู่ในเขตปลอดอากร ซึ่งจะมอบสิทธิประโยชน์ด้านภาษีที่คุ้มค่าให้กับนักลงทุน
พื้นที่ของโครงการเปิดโอกาสสู่การขยายตัวทางธุรกิจ และยังตั้งอยู่บนทางเลี่ยงเมืองสายหลัก ซึ่งสามารถเชื่อมต่อสู่ท่าเรือแหลมฉบังได้อย่างสะดวกสบาย
ทำเลทองของนักลงทุน
- เขตปลอดอากรที่มาพร้อมกับข้อได้เปรียบด้านภาษีที่พิเศษยิ่งกว่า
- ทำเลที่ตั้งใกล้กับระบบขนส่งทั้งทางน้ำ ทางบก และทางอากาศ เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ และท่าเรือแหลมฉบัง
- ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ หรือ Eco Industrial Town ซึ่งมีจุดยืนที่แน่วแน่ในความห่วงใยต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
- ที่พักอาศัยหลายหลายรูปแบบ สำหรับทั้งคณะผู้บริหารและพนักงานทุกระดับ
- ความสามารถในการรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาด้านความแออัดของพนักงาน
ข้อมูลทั่วไป |
|
ปีที่ก่อตั้ง | 2001 |
ทุนจดทะเบียนบริษัท | 595 ล้านบาท |
พื้นที่ตั้ง |
|
พื้นที่โครงการทั้งหมด |
6,000 ไร่ |
พื้นที่โครงการ (ระยะที่ 1) | 1,000 ไร่ |
พื้นที่อุตสาหกรรมทั่วไป | 300 ไร่ |
เขตปลอดอากร | 48 ไร่ |
โครงสร้างพื้นฐาน |
|
แหล่งจ่ายไฟฟ้า
|
มีโรงผลิตไฟฟ้าเป็นของตัวเอง กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ พร้อมแหล่งพลังงานไฟฟ้าสำรองฉุกเฉิน จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. |
แหล่งน้ำ | อ่างเก็บน้ำ ความจุ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร |
คุณสามารถเดินทางสู่จุดหมายปลายทางสำคัญ ในระยะทางดังต่อไปนี้
สถานที่ |
ระยะทาง (กิโลเมตร) |
กรุงเทพมหานคร | 110 |
สนามบินสุวรรณภูมิ | 80 |
ท่าเรือแหลมฉบัง | 100 |
ท่าเรือกรุงเทพ (ท่าเรือคลองเตย) | 120 |
ท่าเรือมาบตาพุด | 130 |
(อ่าว) พัทยา | 120 |
นครราชสีมา (แหล่งทรัพยากรแรงงาน) | 190 |
คลังสินค้าลาดกระบัง | 75 |
สิทธิประโยชน์สำหรับเขตปลอดอากร
- ยกเว้นภาษีขาเข้า สำหรับสินค้าในกรณีดังต่อไปนี้
1. เครื่องจักร, อุปกรณ์, เครื่องมือ, และเครื่องใช้ รวมถึงอะไหล่ส่วนประกอบทั้งหมด ที่ใช้สำหรับการ ประกอบอุตสาหกรรม, พาณิชยกรรม, หรือกิจการอื่นๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยการรับรองของอธิบดีกรมศุลกากรไทย 2. สินค้านำเข้าสู่ประเทศ และนำเข้ามายังเขตปลอดอากร สำหรับการประกอบอุตสาหกรรม, พาณิชยกรรม, หรือกิจการอื่นๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ 3. สินค้านำเข้าที่ปล่อยจากเขตปลอดอากรอื่นๆ - ยกเว้นภาษีขาออก สำหรับสินค้าที่ปล่อยจากเขตปลอดอากรเพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
- ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการนำสินค้าจากต่างประเทศ เข้าสู่เขตปลอดอากร
- ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0 ในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อนำสินค้าที่ผลิตในประเทศเข้าสู่เขตปลอดอากร โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องเสียภาษีขาออกหรือได้รับการยกเว้นภาษีขาออกตามข้อกำหนดของกรมศุลกากรไทย
- ยกเว้นภาษีสรรพาสามิต สำหรับการนำเข้าและการผลิตที่กระทำภายในเขตปลอดอากร
- ยกเว้นภาษีสุรา อากรแสตมป์ และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ตามข้อกำหนดของกฎหมายว่าด้วยสุรา ยาสูบ และการพนัน สำหรับการนำเข้าและการผลิตที่กระทำภายในเขตปลอดอากร
- สินค้านำเข้า หรือวัตถุดิบที่ผลิตภายในประเทศ ซึ่งนำเข้าสู่เขตปลอดอากร สำหรับการผลิต ผสม ประกอบบรรจุ หรือดำเนินการอื่นใดกับสินค้านั้น เพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งออกผลิตภัณฑ์สู่ภายนอกราชอาณาจักร จะได้รับการอนุญาตให้ยกเว้นไม่ต้องอยู่ภายใต้บังคับกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมคุณภาพมาตรฐาน หรือการรับรองคุณภาพ หรือข้อกำหนดด้านการลงตราประทับหรือเครื่องหมายอื่นๆ แก่สินค้านั้น
- สินค้าที่กฎหมายบัญญัติให้ได้รับการยกเว้นภาษีหรือคืนภาษีเมื่อส่งออกสู่ภายนอกราชอาณาจักร จะได้รับการยกเว้นภาษีหรือคืนภาษีเมื่อนำเข้าสู่เขตปลอดอากร โดยให้ถือว่าสินค้านั้นได้ส่งออกสู่ภายนอกราชอาณาจักร ในเวลาที่นำสินค้านั้นเข้าสู่เขตปลอดอากร
- สินค้าใดๆ ก็ตามที่นำออกจากเขตปลอดอากรสำหรับใช้งานภายในประเทศ หรือเพื่อจำหน่าย หรือโอนเข้าไปในคลังสินค้าทัณฑ์บน หรือจำหน่ายแก่ผู้นำสินค้าเข้าตามมาตรา 19 ทวิแห่งพระราชบัญญัติกรมศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 หรือผู้มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราศุลกากรหรือกฎหมายอื่น ให้ถือว่าเป็นการนำเข้ามาภายในราชอาณาจักร หรือนำเข้าสำเร็จในเวลาที่นำสินค้านั้นออกจากเขตปลอดอากร
- สินค้าใดๆ ก็ตามในเขตปลอดอากร ที่นำไปใช้เพื่อการบริโภคหรือเพื่อประโยชน์อื่นๆ นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเขตปลอดอากร ให้ถือว่าเป็นการนำสินค้าออกจากเขตปลอดอากรเพื่อใช้งานหรือจำหน่ายภายในราชอาณาจักรดังรายละเอียดข้อก่อนหน้า เว้นแต่จะเป็นการกำจัดหรือทำลายเศษวัสดุ ของที่เสียหาย ของที่ใช้ไม่ได้ หรือของที่ไม่ได้ใช้ ซึ่งอยู่ภายในเขตปลอดอากร โดยได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมศุลกากรไทย
- สินค้าที่ปล่อยจากเขตปลอดอากรเพื่อนำเข้ามาในราชอาณาจักร ให้คำนวณภาษีตามสภาพของราคาสินค้า และพิกัดอัตราศุลกากรที่เป็นอยู่ในเวลาซึ่งได้ปล่อยสินค้าดังกล่าวนั้นออกไปจากเขตปลอดอากร ในกรณีที่นำสินค้าที่มีอยู่ในราชอาณาจักรเข้ามาในเขตปลอดอากร โดยสินค้าเข้าไปนั้นไม่มีสิทธิได้รับคืนหรือยกเว้นภาษี ไม่ต้องนำราคาสินค้าดังกล่าวมาคำนวณภาษี
แผนผังโครงการ
สาธารณูปโภค
แหล่งจ่ายไฟฟ้า
- โรงผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ กำลังผลิตสูงสุด 50 เมกะวัตต์ ซึ่งครอบคลุมโรงงานอุตสาหกรรมทั้งหมดใน สวนอุตสาหกรรม 304 (ฉะเชิงเทรา) เสริมด้วยกำลังการผลิตอีก 50 เมกะวัตต์จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ.
- ป้องกันปัญหาไฟฟ้าดับ ด้วยระบบไฟฟ้าสำรอง 24 ชั่วโมงจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ.
แหล่งจ่ายน้ำ
- อ่างเก็บน้ำความจุ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร
- ระบบการจัดการน้ำที่ได้ประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถจ่ายน้ำได้แม้ในช่วงฤดูแล้งยาวนาน
- โรงกรองน้ำประปาสะอาดได้มาตรฐาน พร้อมผลิตน้ำประปาได้ถึงวันละ 24,000 ลูกบาศก์เมตร
ระบบบำบัดน้ำเสีย
- ระบบบำบัดน้ำเสียโดยไม่ปล่อยออกสู่ภายนอก โดยนำความรู้ทางชีวภาพมาประยุกต์ใช้
- น้ำที่ผ่านการบำบัดและนำกลับมาใช้ใหม่ จะถูกใช้ไปในพื้นที่สีเขียว เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งแวดล้อมรอบด้านเกิดการปนเปื้อน
- พัฒนาระบบการจัดการน้ำร่วมกับหน่วยงานราชการให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด
โครงสร้างพื้นฐาน
โครงข่ายถนน
- ถนนสายหลักสร้างจากคอนกรีตเสริมเหล็กที่ได้มาตรฐาน ความกว้าง 28 เมตร (ผิวจราจร 4 ช่องทาง) และถนนสายรองความกว้าง 14 เมตร (ผิวจราจร 2 ช่องทาง)
- ระบบป้องกันน้ำท่วมด้วยท่อและรางระบายน้ำแบบ V-ditch
คุณภาพดิน
- หนึ่งในจุดเด่นที่สำคัญของ สวนอุตสาหกรรม 304 คือคุณภาพดิน ซึ่งประกอบด้วยดินตะกอนสีน้ำตาล สามารถรองรับน้ำหนัก 20 - 40 ตันต่อเมตร จึงทนต่อน้ำหนักของอาคารหรือเครื่องจักรขนาดใหญ่ ทั้งหมดนี้ ทำให้ต้นทุนในการก่อสร้างลดลงสูงสุดถึง 20%
ระบบรักษาความปลอดภัย
- กล้องวงจรปิด CCTV ติดตั้งทั่วโครงการ
- ป้อมพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ประตูทางเข้าหลักและบริเวณจุดตัดต่างๆ ภายในสวนอุตสาหกรรม
- บริการการจัดการจราจร จากสถานีตำรวจตำบลศรีมหาโพธิ
ระบบป้องกันอัคคีภัย
- สถานีดับเพลิงภายในโครงการ พร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมง
- ติดตั้งท่อแรงดันสูงเพื่อเชื่อมต่อกับระบบดับเพลิงทั่วโครงการ